เลือกหลอดพรีฟอร์มที่มีคุณภาพดี สำหรับการเป่าขวดน้ำดื่มที่ดี นั้นมีหลายปัจจัย
1. เลือกซื้อหลอดพรีฟอร์มที่ไม่แคบเกินไปสำหรับแกนสเตจ
a. หลอดพรีฟอร์ม จำเป็นต้องมี “ความกว้าง” หรือ “เส้นผ่าศูนย์กลาง” ที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รับปริมาณลมเป่าจากแกนสเตจเข้าไปข้างในได้อย่างรวดเร็ว ทำให้หลอดยืดออก โดยมีสัดส่วนเหมาะสมและสวยงาม หากเข้าไปในหลอดที่แคบ จะส่งผลให้ลมเข้าไปได้น้อย ทำให้คุณภาพขวดที่เป่าออกมาไม่ดี ขวดเสียรูปทรง อาจจำเป็นต้องปรับเพิ่มระยะเวลาเป่า ส่งผลทำให้ไซเคิ้ลไทม์มากขึ้น เพื่อให้ขวดได้รูปและคุณภาพตามที่ต้องการ แต่ผลข้างเขียงคือปริมาณผลผลิตจะลดลงในเวลาเท่าเดิม
2. ความยาวของหลอดพรีฟอร์มควรจะยาวประมาณ 1 ใน 3 ของขวดที่จะเป่าเป็นอัตราส่วนที่เหมาะสม
a. เช่นถ้าหากว่าคุณเอาหลอดพรีฟอร์มแบบสั้นไปเป่าให้เป็นขวด 1500 มิลลิลิตร จะไม่สามารถเป่าได้เลย
b. มีข้อยกเว้นกับขวดที่มีดีไซน์พิเศษหรือมีความจำเป็นอย่างอื่น จึงควรศึกษาแล้วแต่กรณี
3. น้ำหนักหลอดพรีฟอร์มต้องเลือกให้เหมาะสมกับดีไซน์ของขวด
a. หากน้ำหนักน้อยเกินไป จะทำให้ขวดบาง ไม่แข็งแรง ขวดตั้งตรงไม่ได้ และมีอัตราการสูญเสียจากการผลิตที่สูงขึ้น
b. หากน้ำหนักมากเกินไป จะทำให้การเป่าขวดยากขึ้น ไม่สามารถเป่าขวดได้คุณภาพดี ตามที่ต้องการ
4. ปีกของหลอดหลอดพรีฟอร์ม
a. ขนาดของปีกต้องมีความกว้างและใหญ่ เพียงพอต่อการเคลื่อนที่ไปตามรางส่งพรีฟอร์มได้ โดยเฉพาะในเครื่องเป่า ที่ไม่มี โฮลเดอร์ เพราะหากปีกเล็กเกินไปจะทำให้หลอดมีโอกาสร่วงหล่นลงพื้นได้ง่าย
5. Slope ของหลอดพรีฟอร์ม
a. ช่วงเอวระหว่างใต้ปีกลงมาถึงลำตัวของหลอดพรีฟอร์ม ควรจะไล่ slope ทีละน้อย ไม่ควรให้ slope มีความชัน เพราะจะส่งผลให้เป่ายาก และการขยายตัวไม่สม่ำเสมอ
6. QC หลอดพรีฟอร์ม ก่อนจะนำไปเป่าขวดน้ำ
a. คุณสมบัติของหลอดพรีฟอร์มที่ดี
i. ปากหลอดต้องกลม ไม่เบี้ยว
ii. น้ำหนักสม่ำเสมอ
iii. ไม่มีครีบที่เกลียวหรือปากขวด
iv. ปีกตรง ไม่บิดงอ
v. ไม่มีฟองอากาศหรือริ้วรอยต่างๆ
vi. หลอดตรง ไม่งอหรือย่น
vii. ก้านต้องไม่สูงผิดปกติ
b. หากมีกระบวนการตรวจสอบตั้งแต่ต้นอย่างเพียงพอ ตั้งแต่เลือกหลอดที่จะนำมาใช้ การตรวจรับในแต่ละล๊อต จะสามารถช่วยลดของเสียในกระบวนการผลิตได้อย่างมาก เพราะไม่ต้องเสียเวลาปรับเพื่อชดเชยกับคุณภาพหลอดที่ไม่มีคุณภาพ
Recent Comments